วิธีพูดขอความช่วยเหลือ Ways to ask for help

S.O.S, Please someone help me! พูดถึงหัวข้อนี้ทำให้นึกถึงเพลง S.O.S ของ Rihanna ขึ้นมาทันที

วิธีพูดขอความช่วยเหลือจากฝรั่ง มีวิธีการพูดได้อย่างหลากหลายดังนี้


Could you help me, please?
(คูด ยู เฮลพฺ มี พลีส)
ช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ/ครับ

Could you do me a favour?
(คูด ยู ดู มี อะ ฟะเวอะ)
คุณช่วยฉันทำอะไรหน่อยได้ไหมคะ/ครับ

Could you give me a hand?
(คูด ยู กีฟวฺ มี อะ แฮนดฺ)
คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม

Could you help me for a second?
(คูด ยู เฮลพฺ มี ฟอรฺ อะ เซคเคินดฺ)
คุณช่วยฉันสักครู่ได้ไหม

I wonder if you could help me with this?
( ไอ วันเดอะ อีฟ ยู คูด เฮลพฺ มี วิธ ธีส)
ไม่แน่ใจว่าคุณจะช่วยฉันหน่อยได้ไหม




งานยุ่ง ไม่ว่าง พูดเป็นภาษาอังกฤษว่ายังไง?


I’m so busy.
(อัม โซ บิซซี่)
ฉันยุ่งมากๆ

I’m really swamped.
(อัม เรียลลิ สวอมพฺทึ)
ฉันยุ่งมากจริงๆ

I’m tied up.
(อัม ไทดฺ อัพ)
ฉันยุ่งวุ่นวาย

I’ve lots to do.
(ไอฟ ลอทซฺ ทู ดู)
ฉันมีหลายอย่างต้องทำ

I’m up to my neck.
(อัม อัพ ทู มาย เนค)
ฉันยุ่งมาก-เป็นสำนวน

My plate is full.
(มาย เพลท อิส ฟูล)
หรือ
I’ve a lot on my plate.
(ไอฟ อะ ลอท ออน มาย เพลท)
งานฉันล้นมือ/ยุ่งมาก- เป็นสำนวน



รู้ไหมภาษาอะไรที่คนใช้พูดมากที่สุดในโลก


Did you know?

English is the most widely spoken language on Earth. About 375 million people have English as their mother tongue while about 750 million speak English as a second language.

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้พูดมากที่สุดในโลก กว่า375ล้านคนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่และขณะที่ 750ล้านคนพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง



ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษด้วย ‘Tongue twisters’


ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษด้วย Tongue Twisters เป็นบทบิดลิ้นอังกฤษ คือข้อความที่ออกแบบให้ผู้พูดข้อความนั้นเกิดอาการลิ้นพันหรือออกเสียงอย่างถูกต้องได้ลำบาก โดยเฉพาะเมื่อออกเสียงเร็วๆ

Peter Piper picked a peck of pickled peppers.
A peck of pickled peppers Peter Piper picked.
If Peter Piper picked a peck of pickled peppers.
Where’s the peck of pickled peppers Peter Piper picked?



รู้ไหมหัวใจคนเราเต้นวันละกี่ครั้ง


Did you know?

Your heart beats over 100,000 times a day.

หัวใจของคนเราเต้นมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวัน


คำที่ใช้แทนคำว่า So - ดังนั้น

As a result - ผลก็คือ
e.g. He made one big mistake, and as a result lost his job.
เขาทำงานผิดพลาดใหญ่ผลตามมาคือเขาตกงาน

That means - นั่นแปลว่า
e.g. He didn’t talk to her that means he was angry with her.
เขาไม่พูดกับเธอนั่นแปลว่าเขาโกรธเธอ

And now – และตอนนี้
e.g. Last night I stayed up late for study ,and now I’m really tired.
เมื่อคืนฉันอยู่อ่านหนังสือดึกตอนนี้ฉันรู้สึกเพลียมาก

Because of that - เพราะอย่างนั้น
e.g. There was an accident ,and because of that I was late.
มีอุบัติเกิดขึ้นเพราะอย่างนั้นฉันเลยมาสาย

Which made – ซึ่งทำให้
e.g. He changed his mind which made me angry.
เขาเปลี่ยนใจซึ่งทำให้ฉันโกรธ





ภาษาอังกฤษที่คนไทยมักพูดผิด

จากประสบการณ์ที่ตัวแอดมินเคยพูดผิดๆมาก่อนและประสบการณ์การสอนติวให้กับน้องๆมาหลายปี เลยเอาประโยคที่คนไทยเรามักจะใช้ผิดบ่อยๆมาสรุปให้ดู เพื่อจะได้นำเอาไปปรับปรุงแก้ไขกันค่ะ 

ผิดพลาดเป็นเรื่องดี นั่นแสดงว่าเราได้พยายามที่จะพูด แล้วเมื่อรู้ว่าผิดพลาดและนำมาแก้ไข ยิ่งจะทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นนะคะ


I love listening music. I love listening to music.
ฉันชอบฟังเพลง

I have headache. I have a headache. 
ฉันปวดหัว

I know him good. I know him well. 
ฉันรู้จักเขาดี

I like walk. I like walking. 
ฉันชอบเดิน

I am afraid spiders. I am afraid of spiders.
ฉันกลัวแมงมุม

I am waiting you. I am waiting for you. 
ฉันกำลังรอเธอ

He cute. He is cute. 
เขาน่ารัก

I want to jam. I want to join.
ฉันขอร่วมด้วย

I lost the bus. I missed the bus. 
ฉันพลาดรถเมล์

I must to work. I must work. 
ฉันต้องทำงาน

I am a good cooker. I am a good cook. 
ฉันเป็นคนทำอาหารเก่ง

Are you agree? Do you agree?
เธอเห็นด้วยไหม

I’ve arrived to the airport. I’ve arrived at the airport. 
ฉันเดินทางมาถึงที่สนามบิน

A party? Count with me! A party? Count me in!  
งานปาร์ตี้หรือ? ฉันขอไปด้วย

I’m looking forward to see you. I’m looking forward to seeing you. 
ฉันตั้งตารอคอยที่จะพบเธอ





พูดอีกที...พูดอีกทีได้หรือป่าว Ask someone to repeat something


ฟังภาษาอังกฤษไม่ทัน จะบอกยังไงให้ดูสุภาพ?


ยิ้มแห้งๆแล้วตอบว่า Yes อย่างเดียวไม่เอาแล้วนะ

ไม่เข้าใจให้บอกกับเขาไปตรงๆเลย ฝรั่งเขาจะได้พูดช้าๆลงหรือพยายามอธิบายให้เราเข้าใจ 

ประโยคที่พูดว่า พูดอีกทีได้ไหม ในภาษาอังกฤษมีหลายวิธี วิธีง่ายๆลองดูตัวอย่างด้านล่างเลยค่ะ

Would you mind repeating that?
(วูด ยู ไมนดฺ รีพีททิ่ง แธท) 
รบกวนพูดซ้ำอีกทีได้ไหม

Could you repeat that, please?
(คูด ยู รีพีท แธท พลีส)
พูดซ้ำอีกทีได้ไหมคะ/ครับ

Could you say that again, please? 
(คูด ยู เซยฺ แธท อะเกน พลีส) 
พูดอีกทีได้ไหมคะ/ครับ

What was that? 
(วอท วอส แธท)
 พูดอะไรนะ

Can you say it in another way, please? 
(แคน ยู เซยฺ อิท อิน อะนาเธอะ เวยฺ พลีส) 
คุณพูด(อธิบาย)อีกวีธีหนึ่งได้ไหม

Sorry, I didn’t catch what you said. 
(ซอรี่ ไอ ดิ้นทฺ แคทชฺ วอท ยู เซด) 
ขอโทษนะฉันจับใจความไม่ได้ว่าคุณพูดอะไร



ศัพท์ภาษาพูดกับภาษาเขียนในภาษาอังกฤษ Informal and Formal words


ภาษาพูด                ภาษาเขียน             ความหมาย

Ask(อาสคฺ)           Enquire(เอนไควเออะ)   ถาม

Afraid (อะเฟรด)    Fearful (เฟียฟูล)          กลัว

Book(บุค)            Reserve(รีเซิรฟวฺ)         จอง

But (บัท)             However(ฮาวเอฟเวอะ)    แต่

Check(เชค)         Verify(เวริไฟ)             ตรวจสอบ

Cheap(ชีพ)    Inexpensive(อินอิคซเพนซิฟวฺ) ราคาถูก

Deal with(ดีล วิธ)  Handle(แฮนเดิล)           รับมือ

End(เอน)             Terminate(เทอมะเนท)     สิ้นสุด

Explain(เอคซฺเพลน)Disclose(ดิสโคลส)        อธิบาย

Get(เก็ท)              Receive(รีซิฟวฺ)             ได้รับ

Go(โก)                Depart(ดิพารฺท)             จากไป

Go up (โก อัพ)      Increase(อินครีส)           เพิ่มขึ้น

Help(เฮลพฺ)           Assist(อะซิสทฺ)             ช่วยเหลือ

In the end (อิน ดิ เอน) Finally(ไฟนอลลี่)      ถาม

Lucky(ลัคคี้)          Fortunate(ฟอรฺชะเนท)    โชคดี

Mad(แมด)             Insane(อินเซน)              บ้า

Need(นีด)             Request(รีเควส)           ต้องการ

Old(โอลฺด)             Elderly(เอลเดอลี)           แก่

Say(เซยฺ)              Express(อิคซฺเพรส)        พูดกล่าว

Say sorry(เซยฺ ซอรี่)Apologise(อะพอลโลไจซฺ)  ขอโทษ

Set out(เซท เอาทฺ)  Display(ดิสเพลยฺ)           นำเสนอ

Smart(สมารฺท)       Intelligent(อินเทลลิเจินทฺ)   ฉลาด

Small(สมอล)        Diminutive(ดิมินนิทิฟวฺ)       เล็ก

Start(สทราท)       Commence(คมเมนซฺ)         เริ่มต้น

Tell (เทล)              Inform(อินฟอรฺม)             แจ้ง

Try (ธรฺาย)             Endeavour(เอนเดฟเวอะ)  พยายาม

Tough   (ทัฟ)        Difficult(ดิฟฟะคัลทฺ)          ยาก

Throw out(โธร เอาทฺ)  Eject(อีเจคทฺ)              ไล่ออก

Use(ยูส)                 Consume(คันซูม)            ใช้

Wait for(เวท ฟอรฺ)     Await(อะเวท)                คอย

Wrong(รอง)         Incorrect(อินคะเรคทฺ)           ผิด





คำว่าเพื่อน ไม่ได้มีแค่ ‘Friend’

BFF (ย่อจาก Best Friend Forever). (เบสทฺ  เฟรนดฺ ฟอรฺเอฟเวอะ) เพื่อนรัก เพื่อนสนิท
Bestie (เบสที้) เพื่อนซี้
Buddy (บัดดี้) เพื่อนคู่หู
Chum (ชัม) เพื่อนสนิท
Comrade (คอมเรด) เพื่อนสนิท สหาย
Companion (คัมแพนเยิ่น) เพื่อน
Confidant (คอนฟิแดนทฺ) เพื่อนคู่คิด
Mate (เมท) เพื่อน
Close friend (โคลส เฟรนดฺ) เพื่อนสนิท
Crony (โครนี่) เพื่อนสนิท


ศัพท์เกี่ยวกับความเจ็บป่วย


I have/have got…
a headache (อะ เฮดเอค) ปวดหัว
a backache (อะ แบคเอค) ปวดหลัง
a broken leg (อะ โบรเคิน เลค) ขาหัก(1ข้าง)
a stomachache (อะ สทัมมัคเอค) ปวดท้อง
a sore throat (อะ ซอ โธรฺท) เจ็บคอ
a toothache (อะ ทูธเอค) ปวดฟัน
a fever (อะ ฟีเวอะ) เป็นไข้
a cold (อะ โคลฺด) เป็นหวัด
a rash (อะ แรช) เป็นผดผื่น
a cough (อะ คอฟ) ไอ
an earache (แอ่น เอียเอค) ปวดหู
a bruise (อะ บรูซ) แผลฟกช้ำ
a cramp (อะ แครมพฺ) ตะคริว
a cut (อะ คัท) แผลถูกบาด
a runny nose (อะ รันนี่ โนซ) น้ำมูกไหล
a stuffy nose (อะ สทัฟฟี่ โนซ) คัดจมูก
a nosebleed (อะ โนซบลีด) เลือดกำเดาไหล
a stiff neck (อะ สทิฟ เนค) คอเคล็ด
asthma (แอชม่ะ) โรคหอบหืด
heartburn (ฮารฺทเบิรฺน) แสบร้อนกลางอก จุกเสียดทอง
sunburn (ซันเบิรฺน) ผิวไหม้แดด
highblood pressure (ไฮบลัด เพรสเชอะ) ความดันสูง




Irregular Plurals พหูพจน์ที่ต่างจากรูปปกติ



Singular(เอกพจน์)          Plural(พหูพจน์)

      Sheep                         Sheep               แกะ

      Child                          Children             เด็ก
                
      Fish                            Fish                  ปลา
                
      Leaf                            Leaves              ใบไม้
                
      Series                         Series               ตอน
                
      Tuna                           Tuna                ปลาทูน่า
                
      Knife                           Knives              มีด
                
      Quiz                            Quizzes            ทดสอบ
         
      Index                           Indices            ดัชนี
                
      Goose                          Geese              ห่าน
                
      Woman                        Women            ผู้หญิง
                
      Man                             Men                 ผู้ชาย
                
      Aircraft                        Aircraft           เครื่องบิน
                
      Crisis                          Crises              วิกฤตกาล
                
      Curriculum                  Curricula           หลักสูตร
                
      Person                         People              คน
                
      Mouse                          Mice                หนู


คำย่อที่ช่วยให้พูดอังกฤษได้เหมือน Native Speakers


Got to/Have got to ย่อเป็น gotta (กอทท่ะ) ต้อง
e.g. I’ve gotta go.
ฉันต้องไปแล้ว

Going to ย่อเป็น gonna (กอนน่ะ)จะ
e.g. Are you gonna tell me the truth?
แกจะบอกความจริงฉันไหม

Need to ย่อเป็น needa (นีดดะ)ต้อง
e.g. I needa know about him.
ฉันต้องการรู้เกี่ยวกับเขา

Want to/Want a ย่อเป็น wanna (วอนน่ะ) ต้องการจะ
e.g. I wanna go for a walk.
ฉันอยากออกไปเดินเล่น

Have to ย่อเป็น hafta (ฮัฟทะ)ต้อง
e.g. We hafta go.
เราต้องไปกันแล้ว

Has to ย่อเป็น hasta (ฮัสทะ)ต้อง
e.g. Jim hasta work today.
จิมต้องทำงานวันนี้

Ought to ย่อเป็น oughta (ออททะ)ควร
e.g. I oughta phone my mother.
ฉันควรโทรหาแม่

Supposed to ย่อเป็น supposeta (ซัพโพซทะ)คาดว่า
e.g. I’m supposta to be home by midnight.
ฉันคาดว่าน่าจะถึงบ้านเที่ยงคืน

Used to ย่อเป็น useta (ยูสทะ)เคย
e.g. She usta live in Japan.
หล่อนเคยอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น

Kind of ย่อเป็น kinda (ไคด่ะ)ค่อนข้าง/เป็นชนิดของ
e.g. Ann’s kinda sexy.
แอนค่อนข้างเซ็กซี่

Out of ย่อเป็น outta (เอาท่ะ) หมด
e.g. I’m outta office.
ฉันออกจากออฟฟิศ

Cup of ย่อเป็น cuppa (คัพพ่ะ)สักแก้ว
e.g. Would you like a cuppa tea?
อยากได้กาแฟสักแก้วไหม

Sort of ย่อเป็น sorta (ซอทท่ะ)ค่อนข้าง/ประเภทนั้น
e.g. She’s sorta busy.
หล่อนค่อนข้างยุ่ง

A lot of ย่อเป็น a lotta (อะ ลอทท่ะ) มาก
e.g. He eats alotta food.
เขากินอาหารเยอะ

Give me ย่อเป็น gimme (กีมมี่) ส่งให้
e.g. Gimme the pen!
ส่งปากกาให้หน่อย

Let me ย่อเป็น lemme (เลมมี่) ขอ
e.g. Lemme see!
ขอดูหน่อย

Tell them ย่อเป็น tell’em (เทลเล็ม) บอกพวกเขา
e.g. We should tell’em the truth.
เราควรบอกเขาความจริง

Don’t know ย่อเป็น dunno (ดันโน) ไม่รู้
e.g. I dunno.
ฉันไม่รู้

Got a ย่อเป็น gotta (กอทท่ะ)มี
e.g. Have you gotta phone?
เธอมีโทรศัพท์หรือเปล่า

Come on ย่อเป็น c’mon (คะมอน) มาเร็ว
e.g. Cmon, let’s do it together!
มาเร็ว มาทำด้วยกัน

Some more ย่อเป็น s’more (ซะมอรฺ) อีกนิด
e.g. I will need s’more time.
ฉันต้องการขอเวลาอีกนิด

Don’t you  ย่อเป็น  dontcha (โด้นช่ะ)  เธอไม่...
e.g. Dontcha see it?
เธอไม่เห็นหรือไง

Didn’t you ย่อเป็น didntcha (ดิ้นช่ะ) ‘เธอไม่...
e.g. Didntcha like this movie?
เธอไม่ชอบหนังเรื่องนี้หรือ

Won’t you ย่อเป็น wontcha (ว้อนช่ะ)เธอจะไม่
e.g. Wontcha watch this film?
เธอจะไม่อยากดูหนังเรื่องนี้หรือ

What are you ย่อเป็น whatcha (วอทช่ะ) or watcha (วัทช่ะ) เธอทำอะไร
e.g. Whatcha doing?
เธอกำลังทำอะไร

Got you ย่อเป็น gotcha (กอทช่ะ) ได้ตัว
e.g. We gotcha!
จับได้แล้ว

Should have ย่อเป็น shoulda (ชูดด่ะ) ควร
e.g. He shoulda called yesterday.
เขาควรโทรมาตั้งแต่เมื่อวาน

Could have ย่อเป็น coulda (คูดด่ะ) อาจจะ
e.g. She coulda been here by 5:00.
เธอน่าจะมาที่นี้ตอนห้าโมง

Would have ย่อเป็น woulda (วูดด่ะ) น่าจะ
e.g. He woulda arrived soon.
เขาจะมาถึงที่นี้เร็วๆนี้

Might have ย่อเป็น  mighta (ไมท่ะ) อาจจะ
e.g. She mightna caught her bus.
เธออาจจะต้องนั่งรถเมล์

Must have ย่อเป็น musta (มัสท่ะ) น่าจะต้อง
e.g. She musta been in a hurry.
เธอน่าจะรีบ

Couldn’t have ย่อเป็น couldna (คูดน่ะ) ไม่สามารถ
e.g. I couldna called because my phone was broken.
ฉันโทรหาไม่ได้เพราะว่าโทรศัพท์พัง

Shouldn’t have ย่อเป็น shouldna (ชูดน่ะ) ไม่ควร
e.g. I’m sorry, I shouldna told you that.
ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ควรบอกเธอเลย